☻ สิ่งประดิษฐ์ไอเดียเจ๋ง ☻

13 ก.ย.

มาดูสิ่งประดิษ์ฐแปลกๆ ใหม่ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าจินตนาการและ

ความสร้างสรรค์ของมนุษย์นั้นไม่มีขีดจำกัด !!

☻เก้าอี้ที่มีที่แขวนกระเป๋าได้ เอากระเป๋าซุกตรง

หว่างขาซะเลยขโมยที่ไหนจะกล้าเข้ามาล้วงไป

☻เข็ดขัดบวกกับสายวัด เป็นการกดดันตัวเองว่า

ห้ามอ้วนเด็ดขาด 

☻ไม่ต้องเสียเวลานั่งงมหาด้านปลายของ

สก็อทเทปอีกต่อไป

☻รองเท้าทำความสะอาดบ้านที่เป็นไหมพรมมีขายกันเกลื่อนแล้ว

 ☻แก้ปัญหาลูกๆ หลานๆ ไม่ยอมกินข้าว คุณแม่บ้านสามารถเอาอาหารมาตกแต่งในจานให้น่าสนใจ

☻อุปกรณ์สำหรับยึดติดกับขอบโต๊ะสำหรับแขวนถุงพลาสติคใช้เป็นถุงขยะ

☻เอาวางไว้บนเก้าอี้ที่ไหนก็ได้ แล้วเก้าอี้นั้นจะ

ไม่มีใครมารุกราน

 ☻หม้อที่จะคนอาหารได้โดยอัตโนมัติ ประหยัดเวลา

ไม่เมื่อยมือ

ขอบคุณที่มา http://www.sanook.com

คลิ๊กเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยยยยยย !! 

เทคนิคเดาข้อสอบ !! ♥

13 ก.ย.

1) ตัดช้อยส์
               เป็นเทคนิคเมื่อโบราณกาลนานมาแล้ว เป็นเทคนิคคลาสสิคที่ใครๆ เค้าทำกัน คือ  ตัดตัวเลือกที่ดูไม่น่าเกี่ยวข้อง หรือ ไม่ใช่แน่ๆ ออกไป เพราะข้อสอบแต่ละข้อก็จะมีบ้างที่น้องๆ สามารถรู้ว่าช้อยส์นี้ไม่ใช่ ดังนั้น ตัดออกไป ถ้าตัดไดถึง 2 ข้อจะดีมาก เพิ่มโอกาสถูกให้เรา 50 – 50% เลยทีเดียว กลับกันหากเราเดาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ตัดช้อยส์โอกาสถูกจะมีเพียง 25% หรือ 1 ใน 4 เท่านั้น

   2) ข้อที่ทำไม่ได้ ให้ข้ามไปก่อน
               บางข้อคิดหัวแทบแตกก็ไม่ได้คำตอบ ตัดช้อยส์ก็ไม่ได้ แนะนำให้ข้ามข้อนี้ไปก่อนเลย แล้วค่อยกลับมาทำทีหลังโดยใช้เทคนิคอื่นเข้าช่วย อย่าดันทุรังฝืนทำต่อไป เพราะจะเสียเวลาโดยใช่เหตุ ลองคิดดูว่าฝืนคิดข้อละ 1 นาที 20 ข้อ เท่ากับเราเสียเวลาแบบไม่ได้คำตอบไป 20 นาทีเชียวนะ

3) “ไม่มีข้อใดถูก” มักเป็นตัวเลือกหลอก
              ในคำถามที่เน้นการวิเคราะห์และความจำที่ช้อยส์จะยาวเป็นพิเศษ และมักจะมีช้อยส์ “ไม่มีข้อใดถูก” อยู่ด้วย แนะนำว่าถ้ามีช้อยส์นี้ขึ้นมาให้ตัดออกไปได้เลย เพราะการคิดช้อยส์ให้ผิดยากกว่าคิดช้อยส์ให้ถูกนะคะ ที่สำคัญคือ ถ้าตั้งโจทย์มาแล้วแต่ไม่มีข้อถูกในนั้น นักเรียนก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร เรียกว่าเป็นช้อยส์ที่เกิดมาเพื่อหลอกโดยเฉพาะ ยกเว้นแต่ว่าอาจารย์คนนั้นเป็นที่ขนานนามกันว่าเดาแนวข้อสอบยาก อะไรก็เกิดขึ้นได้!!
              ส่วนตัวเลือก “ถูกทุกข้อ” อันนี้ค่อยมีโอกาสเป็นไปได้ แต่น้องๆ ควรอ่านโจทย์ให้ครบทุกข้อซะก่อน สิ่งที่ต้องดูคือ เนื้อหาในช้อยส์มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ขัดแย้งกันเองหรือไม่ เป็นต้น
              แต่ถ้าเกิดมีตัวเลือก “ไม่มีข้อใดถูก” กับ “ถูกทุกข้อ” พร้อมกัน ไม่น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ค่ะ สามารถดูช้อยส์ 2 ข้อที่เหลือแล้วเลือกตอบได้เลย

 4) คำตอบที่แย้งกันเอง มักจะมีข้อใดข้อหนึ่งถูก
              ลองสวมบทบาทคนออกข้อสอบดู เมื่อใส่คำตอบที่ถูกไปแล้ว พอคิดคำตอบที่ผิดขึ้นมาก็มักจะสร้างคำตอบที่ตรงกันเอาไว้ก่อน เรียกว่าเป็นช้อยส์คู่ขนาน เช่น คำตอบที่ลงท้ายว่า “มากขึ้น – ลดลง” เป็นต้น อยู่ที่ว่า 2 ช้อยส์ที่ตรงข้ามกันนั้นเราจะรู้คำตอบมั้ย

 5) ช้อยส์ที่มีความหมายเหมือนกัน ตัดทิ้งได้เลย
             ตรงกันข้ามกับคำตอบที่แย้งกันอันนั้นให้เก็บไว้และเลือกคำตอบที่ถูกต้อง ส่วนช้อยส์ที่มีเนื้อหาหรือความหมายเหมือนกันให้ตัดทิ้ง เพราะถ้าข้อนึงถูก อีกข้อนึงก็ต้องถูก ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เช่น
            ข้อใดคือประโยชน์ของวิตามินเอ?
                ก.บำรุงสายตา
                ข.บำรุงกระดูก
                ค.บำรุงฟัน
                ง.ป้องกันหวัด
           อันนี้เป็นตัวอย่างคร่าวๆ ที่อยากให้น้องๆ เห็นภาพ สมมติว่าข้อนี้น้องๆ ไม่รู้คำตอบเลย ก็ลองดูที่ช้อยส์จะเห็นว่า จริงๆ แล้วกระดูกและฟันมันก็คล้ายๆ กัน ถ้าเกิดมันต้องตอบฟัน กระดูกก็จะต้องตอบด้วย เพราะฉะนั้นจะแยกกันไม่ได้ ดังนั้นตัดออกได้เลยทั้งสองช้อยส์ก็จะเหลือข้อ ก) และ ง) ที่เหลือก็ต้องตัดช้อยส์กันต่อไป ถ้าไม่ได้ต้องเดาต่อ

6) ทิ้งดิ่ง
           เมื่อลองทุกวิถีทางมาแล้ว เชื่อว่าจะเหลือข้อที่ทำไม่ได้ประมาณ 10% ถ้ามากกว่านี้ต้องสงสัยแล้วล่ะว่าได้อ่านหนังสือมาบ้างมั้ยเนี่ย ฮ่าๆ เอาล่ะ เมื่อข้อที่เหลือไม่สามารถตัดช้อยส์ได้ ก็ให้ทิ้งดิ่ง โดยมีหลักการเลือกข้อที่จะทิ้งดิ่งว่า ต้องเป็นข้อที่มีคำตอบน้อยที่สุด เช่น ข้อสอบ 100 ข้อ เหลือข้อที่ตอบไม่ได้ 12 ข้อ  ข้อ ก) มี 21 ข้อ  ข)มี 14 ข้อ  ค)มี 27 ข้อ  ง) 26 ข้อ จะเห็นได้ว่า ข้อ ข) มีคำตอบน้อยที่สุด เพราะฉะนั้น 12 ข้อที่เหลือให้ทิ้งดิ่ง เทกระจาด ตลาดแตกที่ข้อ ข) ได้เลย

คำถามที่เกิดขึ้นคือ แล้วจะมั่นใจได้ยังไงว่าอาจารย์จะออกข้อสอบแบบเฉลี่ยคำตอบให้เท่ากันทุกข้อ ในความเป็นจริงอาจารย์คงไม่ได้จัดให้เท่ากันเป๊ะๆ หรอกค่ะ แต่เราได้ทำข้อที่มั่นใจมากและเกือบมั่นใจไปจนเกือบหมดแล้ว แต่คำตอบในบางข้อก็ถูกกาน้อยซะเหลือเกิน จะให้เราไปทิ้งดิ่งในข้อที่คำตอบเยอะแล้วก็คงจะไม่ใช่ ดังนั้นแบบนี้แหละที่เพิ่มโอกาสได้คะแนนมากกว่า…. ถึงอาจารย์บางท่านจะไม่ได้ยึดหลักเฉลี่ย 25 เท่ากัน แต่ก็เชื่อว่ามีหลายท่านนะคะที่ยังใช้หลักนี้อยู่^^

อ่านไว เข้าใจง่าย :)

20 ก.ค.

4 ขั้นตอนง่ายๆ อ่านหนังสือไว แถมรู้เรื่องด้วย!! 

• ขั้นที่ 1 •

  หนังสือ จะอ่านหนังสือแล้วไม่มีหนังสือ จะอ่านอะไรล่ะคะ 555 นอกจากหนังสือแล้วก็ควรเตรียมสมุดปากกา ดินสอ หรือเครื่องใช้สำคัญๆ ให้พร้อมตรงหน้าด้วย ไม่ต้องลุกบ่อยๆ ให้เสียสมาธินะคะ
– สมาธิ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่สุดในการอ่านหนังสือ คนที่อ่านหนังสือในช่วงสมาธิไม่พร้อมที่เป็นบ่อยที่สุด คือ อ่านไม่รู้เรื่อง “สมาธิ”พูดง่าย แต่สร้างขึ้นมายากเหลือเกิน แนะนำวิธีสร้างสมาธิง่ายๆ เช่น อ่านที่โต๊ะมีแสงสว่างเพียงพอ และในขณะที่อ่าน ควรห่างไกลจากอิเล็กทรอนิกส์ทุกประการทั้ง มือถือ วิทยุ โทรทัศน์ เกมส์ ตู้เย็นด้วย(เห็นตู้เย็นแล้ววิ่งเข้าใส่ รบกวนสมาธิมาก)
 – ไม่เหนื่อย ไม่ง่วง ไม่หิว ความพร้อมด้านร่างกายก็สำคัญนะคะน้องๆ เพราะสมองกับการทำงานของร่างกายมันจะรันไปพร้อมๆกัน ถ้าร่างกายเราล้า สมองเราก็ล้า แต่ถ้าเราสดชื่น สมองก็พร้อมเรียนรู้ค่ะ ถ้าวันไหนเราเรียนและกลับบ้านมาเหนื่อยๆ แนะนำให้น้องๆ อาบน้ำให้สดชื่นก่อน แล้วค่อยมาอ่านหนังสือนะคะ 

• ขั้นที่ 2 •

-ก่อนจะเริ่มอ่านจริงจัง  ต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนทุกครั้งว่า เราจะอ่านเล่มนี้ทำไม ต้องการอะไรจากเล่มนี้ หรือหัวข้อไหนที่เราอยากอ่านเป็นพิเศษ เพื่อกำหนดเป้าหมายของตัวเองให้แน่ชัดนั่นเอง จะได้ไม่เกิดปัญหาอ่านแบบไร้จุดหมาย วกไปวนมา หรืออ่านจนจบเล่มแล้วก็ไม่รู้ว่าได้อะไรบ้าง
 จะเสียเวลาในส่วนนี้ไม่ถึง 5 นาที แต่ประโยชน์ของมันจะช่วยลดเวลาที่เราจะต้องกลับมาอ่านใหม่อีกนับชั่วโมง  เสร็จแล้วก็ไปขั้นตอนต่อไปได้เลย

• ขั้นที่ 3 •

  – อ่านเพื่อทบทวนบทเรียน  สำหรับวิธีการอ่านเพื่อทบทวนบทเรียน แนะให้อ่านแบบ skimming คืออ่านแบบผ่านๆ เก็บรายละเอียดพวกคำศัพท์ หรือ คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนนั้นๆ ทั้งนี้ที่พี่มิ้นท์แนะนำให้อ่านวิธีนี้ เพราะเราเรียนในห้องเรียนมาแล้ว ความรู้น่าจะยังอยู่ในหัวบ้าง
   – อ่านเพื่อเอาคำตอบ คือ น้องๆ อาจจะมีการบ้านหรือคำถามอยู่ในหัว ก็ให้ใช้วิธีอ่านแบบ scanning คือ อ่านคร่าวๆ หาคีย์เวิร์ดเหมือนกัน อาจจะไม่ได้เก็บใจความสำคัญระหว่างทาง เพราะเป้าหมายของเราคือคำตอบเท่านั้น และเมื่อเจอคำตอบแล้ว เราก็หยุดและสแกนหาคำตอบข้อต่อไป
   – อ่านสอบ(แบบไม่ค่อยมีเวลาอ่าน) หากเวลาเหลือน้อยเต็มทน แล้วเรายังต้องอ่านแข่งกับเวลาอีก แนะนำให้น้องๆ อ่านสารบัญของบท เพื่อดูภาพรวมคร่าวๆ ของบทที่น้องๆ จะสอบ ว่ามีหัวข้อหรือประเด็นอะไรบ้าง เสร็จแล้วให้พลิกไปบทนั้นๆ เพื่ออ่านย่อหน้าสุดท้ายของแต่ละหัวข้อ และอ่านย่อหน้าสุดท้ายของบทนั้นอีกที เพราะย่อหน้าจะเป็นส่วนสรุปในแต่ละประเด็น ซึ่งเป็นหนทางที่ดีที่สุด

• ขั้นที่ 4 •

หลังจากอ่านเสร็จแล้วเรียบร้อย ก็สละเวลาอีกเล็กน้อยมาทบทวนความเข้าใจของตัวเองกันหน่อย ด้วยการปิดหนังสือ แล้วลองนึกดูว่า เราอ่านแล้วได้อะไรบ้าง จะมากจะน้อยไม่เป็นไร ขอให้เราได้อะไรจากการอ่านครั้งนี้ก็พอ พร้อมกันนี้ลองเช็คด้วยว่า ผลการอ่านของเราตรงตามจุดประสงค์ในขั้นตอนที่ 2 มั้ย เช่น ต้องการทบทวนบทที่ 2 แล้วเรานึกเนื้อหาบทที่ 2 ออกบ้างรึป่าว เป็นต้น การประเมินผลตัวเองในทุกๆ ครั้ง เป็นประโยชน์ที่ดีทีเดียวเลยค่า
              
      **** ทั้งหมดนี้ก็เป็น 4 ขั้นตอนง่ายๆ ในการอ่านหนังสือให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งดูๆ แล้วเทคนิคในการอ่านหนังสือ เป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวเท่านั้น หลักใหญ่ๆ คือ การเตรียมความพร้อมทั้งกายและใจในการอ่านหนังสือมากกว่า หวังว่าน้องๆ จะลองเอาเคล็ดลับพวกนี้ไปปฏิบัติดูนะคะ ค่อยๆ ลองทีละนิด เมื่อทุกอย่างจะเข้าที่ น้องๆ จะอ่านหนังสือเร็วและจับประเด็นได้เก่งเองค่ะ เริ่ดๆ ล่ะสิ^^

ธรรมชาติที่สวยงาม

18 ก.ค.

♥ พบกับสุดยอดธรรมชาติที่ สวยที่สุดในโลก ♥

สวยงามง๊ามงามม มมมม  
กรุณาใช้วิจารณญาณในการชมด้วยนะคะ บางรูปเหมือนแต่งภาพมากๆ

🙂

🙂

🙂

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : ดอกไม้น้ำแข็ง

 free unlimited image hosting service

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : หินเดินได้

free unlimited image hosting service

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : ไอส์เซอร์เคิ้ล ( Ice Circle )

free unlimited image hosting service

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : เมฆจานบิน

free unlimited image hosting service

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : เมฆ สวยที่สุดในโลก

free unlimited image hosting service

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : ทุ่งน้ำแข็ง นักบวชขาว ( Penitentes )

free unlimited image hosting service

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : สายฟ้า แห่ง ภูเขาไฟ สวยที่สุดในโลก

free unlimited image hosting service


ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : รุ้ง กินน้ำ สวยที่สุดในโลก

free unlimited image hosting service

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : กองทัพ คลื่น แห่ง แม่น้ำอเมซอน ( Pororoca )

free unlimited image hosting service

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : ทะเลโฟม ( Whipping Cream Ocean )

free unlimited image hosting service

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ : เสาเพลิงหมุน น่ากลัวที่สุด

free unlimited image hosting service

หมดแล้วว วววว  หวังว่าคงจะถูกใจกันนะ ^^

♥ ขอขอบคุณ ทีมาจากwww.dek-d.com ♥

คนรักสุนัข

21 มิ.ย.

น้องหมาพันธุ์ ชิวาวา มาดูกันเลย ♥       


 

    

 

น้องหมาหลากหลายพันธุ์  น่ารักอ่ะ ^^ คลิ๊กเลย !!!!